ข้อปฏิบัติก่อน-หลังเสริมหน้าอก เตรียมตัวดีพร้อมสวยไม่เสี่ยง!

การผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นการศัลยกรรมที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาว ๆ ที่อยากมีรูปร่างดี หุ่นสวย ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกก็เป็นการศัลยกรรมที่แพร่หลายมาก มีคลินิกหลายแห่งเปิดให้บริการ อีกทั้งยังเข้าใช้บริการได้สะดวก ไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้รวบรวมสิ่งน่ารู้ก่อนตัดสินใจผ่าตัดเสริมหน้าอกมาฝาก มาดูกันค่ะว่าการผ่าตัดเสริมหน้าอกควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง รับรองว่าไม่ยุ่งยาก ปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ แน่นอน
ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
1.ศึกษาประเภทของการผ่าตัดเสริมหน้าอก
ข้อนี้เราจำเป็นต้องรู้ว่าในปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกมีกี่แบบ รวมถึงประเภทซิลิโคนที่ใช้ แต่ละแบบเหมาะกับคนประเภทไหนบ้าง เพื่อจะได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเราเองได้ โดยคร่าว ๆ การผ่าตัดเสริมหน้าอกจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ สามารถเลือกทำแบบใดแบบหนึ่งหรือทำร่วมกันทั้งสองอย่างในครั้งเดียวได้ ประกอบด้วย
- การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียม (Breast Implant Augmentation) เป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ซึ่งซิลิโคนที่นำมาใช้เสริมก็มีทั้งแบบถุงซิลิโคนบรรจุซิลิโคนเจลและถุงซิลิโคนบรรจุน้ำเกลือ
- การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Augmentation) วิธีนี้จะใช้เนื้อเยื่อตัวเองในการผ่าตัดเสริมหน้าอก ไม่ใช้สิ่งแปลกปลอม จุดเด่นคือมีความเป็นธรรมชาติสูง แต่ข้อจำกัดก็เยอะมากเช่นกัน เช่น วิธีการยุ่งยากกว่า (หากใช้ไขมันก็จำเป็นต้องดูดไขมันก่อน ซึ่งมีขั้นตอนและกรรมวิธีที่ต้องดูเป็นเคส ๆ ไป) เป็นต้น
นอกจากประเภทของการผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้ว ตำแหน่งบาดแผลผ่าตัดก็เป็นอีกข้อที่เราควรเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราเองมากที่สุด โดยตำแหน่งผ่าตัดเสริมหน้าอกในปัจจุบัน แบ่งเป็น
- บาดแผลใต้ราวนม วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์วางตำแหน่งซิลิโคนได้ง่ายและแม่นยำขึ้น ทั้งยังเสียเลือดน้อย ใช้เวลาฟื้นตัวไม่มาก และเป็นตำแหน่งที่ใช้สำหรับกรณีการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคนอีกด้วย แต่ควรระมัดระวังเรื่องรอยแผลเป็น
- บาดแผลใต้รักแร้ เหมาะสำหรับคนต้องการซ่อนรอยแผล แต่ในช่วงแรกหลังการผ่าตัดจะเจ็บแผลมากเนื่องจากใกล้กับกล้ามเนื้อแขนพอดี ทำให้เคลื่อนไหวมากไม่ได้
- บาดแผลรอบปานนม สามารถซ่อนแผลได้เช่นกัน แต่เสี่ยงต่ออาการหัวนมชา ทั้งยังเสี่ยงต่ออาการช้ำและเสียเลือดมากกว่า ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า
รู้จักวัสดุที่ใช้เสริมหน้าอก
หากพูดถึงเทคนิคผ่าตัดเสริมหน้าอกที่เป็นที่นิยมมากที่สุด หลายคนคงนึกถึงการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน แต่รู้หรือไม่คะว่าซิลิโคนมีหลายประเภทมาก และแต่ละประเภทก็ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลัก ๆ เราจะจำแนกประเภทของซิลิโคนตามผิวสัมผัส ได้แก่ ผิวเรียบและผิวทราย นอกจากนี้ยังแบ่งตามรูปทรงได้เป็นทรงกลมและทรงหยดน้ำ แต่ยังไม่หมดเท่านี้ค่ะ เพราะซิลิโคนเสริมหน้าอกยังมีหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือกใช้ จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
นอกจากนี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการวางตำแหน่งซิลิโคนสามารถเลือกได้ 2 แบบ (ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความหนาของเนื้อบริเวณหน้าอก ความหย่อนคล้อยของหน้าอก หรือลักษณะของทรวงอก) ซึ่งตำแหน่งการวางซิลิโคนจะแบ่งเป็น
- ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อและลดความเสี่ยงต่อการกระเพื่อมหรือการเกิดพังผืดรัดรอบถุงซิลิโคนเจลได้ดี
- บนกล้ามเนื้อหน้าอก ตำแหน่งนี้จะให้ความเป็นธรรมชาติ ช่วยให้รู้สึกสบายหลังผ่าตัด ทั้งยังไม่เป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อหน้าอก
3.ใส่ใจในการเลือกแพทย์
แพทย์คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์การผ่าตัดเสริมหน้าอกว่าจะออกมาดูดีหรือไม่ ทั้งยังเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นหลัก เนื่องจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องมีการฉีดยาชาและดมยาสลบก่อนผ่าตัด ความเชี่ยวชาญของแพทย์จึงสำคัญมาก ซึ่งที่ Q Clinic ของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการผ่าตัดเสริมหน้าอกประจำอยู่โดยเฉพาะ ทั้งยังมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดการผ่าตัด จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้แน่นอน
ข้อปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกควรทำอย่างไรบ้าง
- งดรับประทานยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะชนิดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน, ยาต้านอักเสบไอบูโพรเฟน, วิตามินอี, น้ำมันปลา (Fish oil) เป็นต้น
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพราะหากไม่งดอาจส่งผลให้แผลหายช้าลงได้
- หลีกเลี่ยงการผ่าตัดเสริมหน้าอกในช่วงมีประจำเดือน
- งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- คืนก่อนผ่าตัดควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรอาบน้ำสระผม ชำระร่างกายให้สะอาดก่อนการผ่าตัด
- ควรสวมเสื้อผ้าที่หลวมสบาย ใส่และถอดง่ายมาผ่าตัด เช่น เสื้อที่มีกระดุมหน้า
- เตรียมเสื้อชั้นในตามขนาดและรูปแบบที่แพทย์แนะนำ
- เตรียมข้อมูลที่จำเป็นต้องแจ้งกับศัลยแพทย์ ได้แก่ โรคประจำตัว ยาที่ใช้เป็นประจำ อาหารเสริมที่ทานทุกชนิด ยาที่แพ้ และสำคัญที่สุดคือหากมีแผนกำลังจะมีบุตรให้แจ้งกับศัลยแพทย์ด้วย
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
โดยส่วนมากการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน ในช่วง 2-3 วันแรกอาจรู้สึกปวดตึงบ้าง ซึ่งเต้านมจะดูเป็นธรรมชาติเมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน โดยทั้งนี้หลังเข้ารับการผ่าตัดควรดูแลตนเองดังนี้
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บาดแผลโดนน้ำ 3 วัน หลังจากนั้นจึงค่อยอาบน้ำได้ตามปกติ
- พยายามนอนให้ลำตัวส่วนบนยกสูงประมาณ 30 – 40 องศา
- ใส่ Support garment อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด (หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจตามแพทย์นัด (แพทย์มักจะนัดมาตัดไหมในช่วง 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด)
- ระวังเรื่องการรับประทานอาหารแสลงอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เช่น อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารหมักดองที่มีการปนเปื้อน เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ
หากใครกำลังมีแพลนผ่าตัดเสริมหน้าอก สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน จากนั้นเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและเลือกผ่าตัดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ เพราะความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอค่ะ
แต่ถ้าหากคุณยังมีความลังเลหรือสงสัยสามารถติดต่อพวกเรา Q clinic เพื่อขอคำปรึกษาได้เลยนะคะ อีกอย่างเรายังขอแนะนำวิธี เตรียมตัวก่อนตัดสินใจศัลยกรรมหน้าอก เพิ่มคัพ เติมความมั่นใจ สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไว้คลายข้อสงสัยเพิ่มเติมนะคะ
You must be logged in to post a comment.