เช็คให้ชัวร์ก่อนการศัลยกรรมตัดหน้าอก ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

หลาย ๆ คนที่กำลังต้องการเปลี่ยนเพศสภาพจากหญิงให้เป็นชายอยู่นั้น คงรู้ดีอยู่แล้วว่าตัดหน้าอกเป็นบันไดขั้นแรกเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นจริง แต่บางคนก็อาจจะยังไม่มั่นใจ ยังสงสัยว่าจะต้องเริ่มตรงไหน ต้องมีการเตรียมตัวกันยังไงบ้าง และเมื่อตัดหน้าอกแล้ว จะต้องดูแลตัวเองกันยังไง ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เราได้รวบรวมคำตอบไว้ให้ในบทความนี้แล้ว
การศัลยกรรมตัดหน้าอกคืออะไร?
การทำศัลยกรรมตัดหน้าอกคือการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อเต้านมออกจากลำตัว แม้บางคนจะทำการผ่าตัดนี้เพื่อเหตุผลทางสุขภาพ เช่น เป็นมะเร็งเต้านม หรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็ง แต่สำหรับบางคนจะตัดหน้าอกเพื่อแปลงเพศ ทำให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันโดยที่ไม่ต้องคอยอึดอัดกับการต้องใส่สเตย์รัดหน้าอกในทุก ๆ วันอีกต่อไป ซึ่งตัดหน้าอกนี้ก็นับเป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการแปลงเพศจากหญิงเป็นชายโดยสมบูรณ์ เบื้องต้น การจะเข้ารับการผ่าตัดนี้ได้จำเป็นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ต้องมีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ ต้องผ่านการประเมินสภาพจิตใจและมีใบรับรองจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่าน ว่ามีภาวะจิตใจที่ไม่ตรงกับเพศสภาพ และต้องการเปลี่ยนเพศสภาพให้ตรงกับที่จิตใจต้องการ ไปจนถึงต้องใช้ชีวิตแบบเพศชายมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมตัดหน้าอก
- พบจิตแพทย์
ในการตัดหน้าอกเพื่อเปลี่ยนจากเพศหญิงให้เป็นเพศชายนั้น ผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นจะต้องเข้าพบจิตแพทย์ 2 ท่านก่อน เพื่อประเมินว่า ผู้เข้ารับการผ่าตัดหน้าอกมีภาวะ Gender dysphoria (GD) หรือเป็นผู้ที่ไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิดอย่างรุนแรง และมีความพร้อมที่จะผ่าตัดแปลงเพศจริง เมื่อได้รับการยืนยันจากจิตแพทย์พร้อมได้ใบรับรองแพทย์แล้ว จึงจะสามารถดำเนินการในขั้นต่อไปได้
- ตรวจร่างกายทั่วไป
การตรวจร่างกายก่อนทำศัลยกรรมตัดหน้าอกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แพทย์ได้ประเมินถึงสุขภาพร่างกายของผู้เข้ารับการผ่าตัดว่าแข็งแรงและพร้อมสำหรับการผ่าตัดหรือไม่ การตรวจร่างกายจะช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการผ่าตัด และช่วยให้แพทย์วางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมกับสุขภาพของผู้เข้ารับการผ่าตัดได้
- ตรวจเลือดเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการดมยาสลบ
ขั้นต่อไปก็จะเป็นการตรวจเลือดเพื่อประเมินระบบโลหิต การทำงานของไต การเอ็กซ์เรย์ปอด และการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการดมยาสลบ
- ตรวจหน้าอก
แพทย์จะต้องตรวจดูหน้าอก ทั้งขนาดของเต้านม เพื่อพิจารณาเทคนิคและวิธีการผ่าตัดและวางแผนการผ่าตัดให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คนไข้ต้องการ และเพื่อเป้นการตรวจดูความผิดปกติด้วย หากมีก้อนที่เต้านมก็จะต้องตรวจเพิ่มเติมว่าเป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงหรือไม่
- หยุดยาฮอร์โมนเพศชาย
ควรหยุดยาฮอร์โมนเพศชาย รวมถึงยาปฏิชีวนะ เช่น Aspirin หรือ Ibuprofen ก่อนการผ่าตัดหน้าอกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เสียเลือดมากเกินไปจนเป็นอันตรายได้
- งดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการทำศัลยกรรมตัดหน้าอกเพื่อให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงแผลได้ดี ลดโอกาสเนื้อตาย
- งดอาหารและน้ำ 6-8 ชั่วโมงก่อนการศัลยกรรมตัดหน้าอก
ระหว่างการให้ยาสลบ ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกตัวและสูญเสียความสามารถในการป้องกันการสำลัก หากมีอาหารหรือน้ำที่เพิ่งรับประทานตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการสูดสำลักอาหารและน้ำลงปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบได้ ซึ่งอาจรุนแรงจนทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและถึงแก่ชีวิตได้
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมตัดหน้าอก
- ล้างแผลให้สะอาดตามคำแนะนำของแพทย์
ควรมีการทำแผลทุกวันด้วยยาที่แพทย์สั่งจ่ายทาแผลแล้วพันด้วยผ้าก๊อซทับทุกครั้งเพื่อปิดแผลไม่ให้เชื้อโรคเข้า
- รับประทานยา
ควรรับประทานยาที่แพทย์สั่งจ่ายเช่น ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ยาลดอาการบวม ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเอกสารกำกับยาอย่างเคร่งครัด
- งดขับรถเองประมาณ 5-7 วัน
รวมทั้งงดการยกของหนัก การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าอกหรือหัวไหล่เยอะ ๆ ประมาณ 1 เดือนหลังการผ่าตัดหน้าอก เพราะอาจไปกระทบกระเทือนแผล ทำให้แผลฉีกได้
- ควรสวมเสื้อให้กระชับหน้าอกไว้ประมาณ 1 เดือน
เพื่อช่วยกระชับผิวหนังบริเวณหน้าอกไม่ให้เหี่ยวย่น และช่วยให้หน้าอกเข้ารูปได้เร็วขึ้น
- งดอาหารหมักดองและแอลกอฮอล์
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อน อาหารหมักดองอาจไม่สะอาดและอาจส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัดได้ แอลกอฮอล์จะทำให้การฟื้นตัวของร่างกายช้าลง และส่งผลกระทบต่อการสมานแผล ทำให้แผลหายได้ช้าและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น
ครบถ้วนกันไปแล้วกับเกร็ดความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมตัดหน้าอก รวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ในการดูแลร่างกายระหว่างพักฟื้น รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยล่ะ ทั้งนี้แพทย์อาจมีข้อห้ามและคำแนะนำอื่น ๆ ที่สำคัญอีกด้วย ผู้ที่รับการศัลยกรรมตัดหน้าอกก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอันไม่พึงประสงค์ ส่วนใครที่กำลังมองหาคลินิกดี ๆ ที่ได้มาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์สักแห่ง เพื่อใช้บริการตัดหน้าอกแบบอุ่นใจหายห่วง ก็ต้องเป็นที่ Q Clinic ที่พร้อมให้คำปรึกษากับคุณอย่างตรงไปตรงมาและเป็นมืออาชีพ โดยสามารถคลิกเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Q Clinic
You must be logged in to post a comment.